วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

หาดสวยทะเลใสที่หาดทรายแก้ว


หาดทรายแก้ว
หลังจากที่ติดอกติดใจกับหาดนางรำ สัตหีบ คราวนี้เลยลองไปเที่ยวที่หาดอื่นดูบ้าง หาดที่จะไปในครั้งนี้ก็เป็น หาดทรายแก้ว หาดชื่อดังของสัตหีบเค้าเลย ก่อนจะเดินทางก็หาข้อมูลจากอินเตอร์เนตได้พอสมควร พอที่จะรู้พิกัด พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยครับ
ทริปนี้ออกจากกรุงเทพกันประมาณ 7 โมงครึ่ง ใช้เส้นทางสาย 7 มอเตอร์เวย์กันอีกตามเคย ค่าผ่านทาง 30+30 ครับ เตรียมเงินไว้ให้พร้อม เพื่อความรวดเร็ว ออกจากมอเตอร์เวย์ตรงพัทยา ผ่านพัทยากลาง พัทยาใต้ หาดจอมเทียน ผ่านตลาดน้ำ 4 ภาคทางซ้ายมือ ใครจะแวะเดินเล่นก็ได้นะ รถจอดที่ตลอดน้ำ 4 ภาคเยอะมากเลยล้นออกมาที่ถนน ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค จะเน้นของไทยๆครับ ของกินก็มีให้เลือกเยอะ เลยไปอีกจะผ่านหาดจอมเทียน จากนั้นก็จะเข้าสัตหีบ ผ่านสวนนงนุชทางซ้ายมือ ให้มองหาร.ร.ชุมพลทหารเรือ ทางขวามือ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปเลย ถ้าเลี้ยวไม่ทันก็ U-turn ข้างหน้าอีกนิดเดียว
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับยามรักษาการณ์ จะต้องแลกบัตรที่ป้อม ผมหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายป้อมแลกบัตร อยากให้เป็นข้อมูลท่องเที่ยว และมีส่วนในการประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยว หาดทรายแก้ว หลังจากถ่ายไป 1 แชะ ทหารก็บอกว่าถ่ายไม่ได้ ผมเลยขอโทษไป ด้วยความที่คิดว่าไม่น่าจะมีผลต่อความมั่นคง แต่ก็เข้าใจครับกฎก็คงต้องเป็นกฎ
บัตรที่ใช้แลกก็ใบขับขี่หรือบัตรประชาชนก็ได้ แล้วเราก็จะได้ป้ายผ่านทางมา ให้มาวางตรงกระจกหน้า เมื่อเจอด่านตรวจต่อไปจะได้รู้ที่มาที่ไปของเรา ภายใน ร.ร.ชุมพลทหารเรือ ร่มรื่น กว้างมาก ขับรถเข้ามาเป็นกิโลเลยละ เข้ามาแล้วก็อาจจะงงๆหน่อย เนื่องจากไม่ค่อยมีป้ายบอกทาง อันที่มีก็เล็กมาก ต้องชะลอรถหน่อยถึงจะอ่านทัน
ทะเล ร.ร.ชุมพลทหารเรือ สัตหีบ ก่อนข้ามเขาไปหาดทรายแก้ว บางครอบครัวก็จอดรถปิคนิคกันริมทะเล
พอขับรถไปจนสุดทางจะเห็นทะเลสีฟ้ากับภูเขาเขียวให้สดชื่นกัน ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกทีสังเกตุดูตรงที่รถจอดเยอะๆแหล่ะครับ เราจะต้องเอารถไปจอดไว้แล้วต่อรถสองแถวเข้าไปหาดทรายแก้ว ถ้าไปสายก็หาที่จอดร่มๆยากหน่อย ที่หาดทรายแก้วเราไม่สามารถเอารถเข้าไปจอดได้เนื่องจากที่จอดรถมีจำนวนจำกัด แต่มีข้อยกเว้นว่าหลัง 6 โมงเย็น คนที่พักที่หาดทรายแก้วเอารถเข้ามาจอดที่หาดทรายแก้วได้ครับ และก็ได้ยินมาว่าถ้ามาแต่เช้าตรู่ก็สามารถขับรถเข้าไปจอดที่หาดทรายแก้วได้เช่นกัน
ที่จอดรถไปหาดทรายแก้ว
 
ก่อนจะเข้าหาดจะต้องซื้อตั๋ว เสีย ค่าบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับคนไทยคนละ 30 บาท ชาวต่างชาติ 60 บาท ได้ตั๋วมาแล้วก็ยื่นให้สองแถวแล้วก้าวขึ้นรถได้เลย รถสองแถวก็เป็นรถกระบะมีหลังคามีที่นั่ง 2 ข้าง มีทริกนิดหน่อยครับขาไปถ้าอยากเห็นวิวสวยให้นั่งขวา ส่วนขากลับก็นั่งซ้าย
ระหว่างทางไปหาดทรายแก้ว
รถจะวิ่งขึ้นเขาเป็นถนนคอนกรีต 2 เลน เลียบภูเขาไป ถ้าขับไปเองมืดๆ คงมีสิทธิ์ตกภูเขาได้เหมือนกัน วิวข้างทางจะมองเห็นหาดทรายแก้วที่อยู่ด้านล่างเว้าเป็นครึ่งวงกลม เห็นเกาะเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า วิวสวยมากดูไปก็คล้ายๆกับวิวหมู่เกาะอ่างทองอะไรประมาณนั้น วิวสวยแต่หาโอกาสถ่ายรูปยากมาก เพราะนั่งเบียดกันมาและรถก็เลี้ยวตลอดไม่มีจังหวะถ่ายรูปเลย แต่ถ้าใครอยากจะได้ถาพสวยๆ ก็เดินย้อนขึ้นเขามาได้ อาจจะหอบซะหน่อย
หลังจากลงจากเขาก็มาเจอกับหาดทรายแก้วพอดี ขนมพร้อม เสื่อพร้อม ผมก็เดินหาทำเลปูเสื่อก่อน ใต้ต้นไม้ใหญ่ถูกจับจองไปหมดแล้วเลยต้องเดินไปไกลเลย หลังจากนั้นก็เริ่มสำรวจหาด เก็บข้อมูลและรูปภาพมาฝากกันครับ
จะเที่ยวให้สนุกต้องอ่าน กฎระเบียบและข้อห้าม กันก่อน ห้ามก่อไฟ ห้ามประกอบอาหาร ห้ามเล่นการพนัน ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ดูแล้วน่าจะเหมาะกับผู้รักสงบ รักธรรมชาติ หรือจะมานั่งสมาธิ ตัดขาดจากโลกภายนอกก็ไม่เลวครับ

ข้อมูลบทความและรูปภาพทั้งหมดจาก

อิ่มอร่อยไปกับโชคชัยสเต็คเฮ้าส์

โชคชัยสเต็คเฮ้าส์


โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ ทุกสาขาเสิร์ฟสเต๊กชั้นดีได้มาตรฐานจาก Chokchai Main Kitchen ที่ได้คัดสรรและปรับปรุงคุณภาพเนื้อด้วยกรรมวิธี 
Dry Aging ทำให้เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้นขึ้น โดยวิธีธรรมชาติ ซึ่งคุณจะประทับใจไม่รู้ลืม




โดย คุณโชคชัย บูลกุล ได้สร้าง “ตึกโชคชัย” ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยขณะนั้น (26 ชั้น) และได้เปิด ภัตตาคารโชคชัยสเต็คเฮ้าส์ขึ้นที่ชั้น 23 ในบรรยากาศแบบ Western Country ที่สามารถชมทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในมุมสูงได้กว้างไกล ต่อมาไม่นาน โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ก็กลายเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในการเสิร์ฟสเต๊กชั้นดี ทั้งเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศและเนื้อวัวของทางฟาร์มโชคชัยเอง

ในปี พ.ศ. 2528 โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ได้เปิดกิจการในรูปแบบฟาสต์ฟู้ดที่ศูนย์อาหารมาบุญครองเซ็นเตอร์ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนกระทั่งหมดสัญญา เช่าพื้นที่ลงในปี พ.ศ. 2543

ในปี พ.ศ. 2529 ได้มีการเปิดภัตตาคารโชคชัยสเต็คเฮ้าส์ สาขาปากช่อง ขึ้นที่บริเวณหน้าฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเริ่มจากภัตตาคารขนาด 150 ที่นั่ง จนปัจจุบัน ได้ขยายอาคารเป็นอาคารสามชั้นพร้อมห้องจัดเลี้ยง ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้ถึงรอบละ 600 ที่นั่ง และเป็นสาขาที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

ในปี พ.ศ. 2534 โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ สาขารังสิต ก็เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเปิดสเต๊กเฮ้าส์ในสไตล์ Modern Country โดยมีรูปแบบร้านที่ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นคาวบอยอันเป็นเอกลักษณ์ของโชคชัยสเต็คเฮ้าส์ไม่เสื่อมคลาย

ในปี พ.ศ. 2538 คุณโชค บูลกุล ได้เปิดตัวโชคชัยไพร์มสเต็คเฮ้าส์ สาขาสุขุมวิท 23 ขึ้น ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไป คือ Modern Western ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวของตำนานคาวบอยแห่งฟาร์มโชคชัย



โชคชัยสเต็คเฮ้าส์ เป็นภัตตาคารที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 30 ปี จากระยะเวลาที่ผ่านมา ทางร้านได้พัฒนาทั้งคุณภาพของเนื้อสเต๊ก รสชาติอาหาร และการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าและความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนี้ เราจะยังคงคิดค้นและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้เกิดขึ้น รวมทั้งรักษาคุณภาพที่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าให้คงอยู่ตลอดไป









ร้านโชคชัยสเต็คฮัท ตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำหน้าฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ท่ามกลางบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ มีการติดกระจกโดยรอบทำให้สามารถมองเห็น ทัศนียภาพของฟาร์มโชคชัยในมุมมองที่แตกต่างออกไป สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 120 ท่าน เมนูประกอบไปด้วย ก๋วยเตี๋ยวสเต๊กเนื้อสด ก๋วยเตี๋ยวสเต๊กเนื้อตุ๋น พร้อมทั้งอาหารไทย และสเต๊กรสชาติใหม่ๆมากมาย

เปิดให้บริการ
วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึง 19.00 น.

ที่อยู่: 170 หมู่ 2 ถ.มิตรภาพ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โทร. 0 4432 8552


ร้านสเต๊กเบอร์เกอร์ อาคารสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์แปลกใหม่ ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว ด้วยสีสันที่สดใสและกลิ่นอายของความเป็นฟาร์มเต็มตัว ใน Style American Dinner พร้อมด้วย “สเต๊กเบอร์เกอร์” ชิ้นโต และซอสสูตรพิเศษที่อัดแน่นด้วยความอร่อย เพราะผลิตจากวัตถุดิบที่ใช้ทำพรีเมี่ยมสเต๊ก เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีฮอทดอกและลูกชิ้นรสกลมกล่อมปรุงร้อนๆ ให้ดูกันแบบ Open Kitchen ที่ไม่ทำก่อนคุณสั่ง


ข้อมูลและรูปภาพ

ผ่อนคลายกับวิวสวยๆที่อุทยานภูหินร่องกล้า





อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า



ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2527 เป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติแปลกตาและสวยงาม ทั้งยังเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ เป็นยุทธภูมิสำคัญในอดีต ที่เกิดจากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)
ภูหินร่องกล้ามีลักษณะภูมิอากาศคล้ายกับภูเขาสูงของจังหวัดเลยเช่น ภูกระดึงและภูเรือ เนื่องจากมีความสูงในระดับไล่เลี่ยกัน อากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่ำประมาณ 4 องศาเซลเซียส แม้ในฤดูร้อนอากาศก็ยังเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ทางด้านประวัติศาสตร์ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์การสู้รบ โรงเรียนการเมืองการทหาร กังหันน้ำ สำนักอำนาจรัฐ โรงพยาบาลรัฐ ลานอเนกประสงค์ สุสาน ทปท. ที่หลบภัยทางอากาศ ห
มู่บ้านมวลชน

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ มีทั้งด้านประวัติศาสตร์และด้านธรรมชาติ ดังนี้ ด้านประวัติศาสตร์
พิพิธภัณฑ์การสู้รบ เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสู้รบในอดีต มีสภาพแผนภูมิข้อมูล อุปกรณ์การแพทย์ อาวุธ เอกสารเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ รวมทั้งนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยาภูหินร่องกล้า นอกจากนี้ ยังมีห้องประชุมสำหรับบรรยายสรุปหรือประชุมสัมมนา
โรงเรียนการเมืองการทหาร ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 4 เป็นหมู่อาคารไม้ภายใต้ร่มเงาของป่ารกครึ้ม เป็นที่ตั้งของคณะกรรมการเขต 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี2513 และต่อมาในปีพ.ศ.2520 ได้ก่อตั้งเป็นโรงเรียนซึ่งให้การศึกษาตามแนวทางลัทธิคอมมิวนิสต์
กังหันน้ำ อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นกังหันน้ำขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นจากการผสมผสานความคิดก้าวหน้าทางวิชาการกับการนำประโยชน์จากธรรมชาติมาใช้งาน โดยนักศึกษาวิศวะที่เข้าร่วมกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
สำนักอำนาจรัฐ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ดำเนินการด้านปกครอง มีการพิจารณาและลงโทษผู้กระทำผิดหรือละเมิดต่อกฎลัทธิ มีคุกสำหรับขังผู้กระทำความผิด มีสถานที่ทอผ้า และโรงซ่อมเครื่องจักรกลหลงเหลืออยู่ 
โรงพยาบาลรัฐ อยู่ห่างจากสำนักอำนาจรัฐไปทางทิศเหนือ ประมาณ 2 กิโลเมตร เคยเป็นโรงพยาบาลกลางป่าที่มีอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลครบครัน มีห้องปรุงยา ห้องพักฟื้น และห้องผ่าตัด โรงพยาบาลแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2519 สามารถทำการรักษาพยาบาลและผ่าตัดอวัยวะได้ทุกส่วน ยกเว้นหัวใจ มีหมอและพยาบาลที่ผ่านการอบรมหลักสูตรเร่งรัดจากประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2522 ได้เพิ่มแผนกทำฟัน และวิจัยยา เครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่ได้จากในเมือง มีการรักษาด้วยวิธีฝังเข็มและใช้สมุนไพรด้วย
ลานอเนกประสงค์ เป็นบริเวณลานหินกว้างใหญ่ อยู่ก่อนถึงสำนักอำนาจรัฐ ใช้เป็นที่พักผ่อนและสังสรรค์ในหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ในโอกาสสำคัญต่างๆ
สุสาน ทปท. เป็นสถานที่ฝังศพของนักรบทหารปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ที่เสียชีวิตจากการสู้รบกับทหารฝ่ายรัฐบาล ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้บริเวณลานอเนกประสงค์
ที่หลบภัยทางอากาศ เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวจากการทิ้งระเบิดทางอากาศของทหารฝ่ายรัฐบาล ลักษณะพื้นที่เป็นหลืบหินหรือโพรงถ้ำใต้แนวต้นไม้ใหญ่ ทำให้ยากต่อการตรวจการณ์ทางอากาศ สถานที่หลบภัยมีอยู่หลายแห่งแต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ 2 แห่ง คือ บริเวณห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหารราว 200 เมตร ลักษณะเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ มีซอกหลืบสลับซับซ้อน จุคนได้ถึง 500 คน และอีกแห่งหนึ่งบริเวณทางเข้าสำนักอำนาจรัฐ เป็นหลืบขนาดใหญ่สามารถจุคนได้ประมาณ 200 คน
หมู่บ้านมวลชน เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มมวลชนแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ มีอยู่หลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านดาวแดง หมู่บ้านดาวชัย แต่ละหมู่บ้านมีบ้านประมาณ 40-50 หลัง เรียงรายอยู่ในป่ารกริมถนนที่ตัดมาจากอำเภอหล่มเก่า ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ไม่ยกพื้น หลังคามุงด้วยไม้กระดานแผ่นบางๆ กันน้ำฝนได้อย่างดี และมีหลุมหลบภัยทางอากาศอยู่ด้วย

ด้านธรรมชาติ
ลานหินแตก อยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ ประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นลานหินที่มีอาณาบริเวณประมาณ 40 ไร่ ลานหินมีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก รอยแตกนี้บางรอยก็มีขนาดแคบขนาดพอคนก้าวข้ามได้ แต่บางรอยก็กว้างจนไม่สามารถจะกระโดดข้ามไปถึง สำหรับความลึกของร่องหินแตกนั้นไม่สามารถจะคะเนได้ ลักษณะเช่นนี้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัว หรือเคลื่อนตัวของผิวโลก จึงทำให้พื้นหินนั้นแตกออกเป็นแนว นอกจากนี้บริเวณลานหินแตกยังปกคลุมไปด้วยมอส ไลเคน ตะไคร่ เฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ
ลานหินปุ่ม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ริมหน้าผา ลักษณะเป็นลานหินซึ่งมีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่ม เป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาล เนื่องจากอยู่บนหน้าผา มีลมพัดเย็นสบาย
ผาชูธง อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล จะสวยงามมากในยามพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ซึ่ง ผกค. ขึ้นไปชูธงแดงรูปค้อนเคียวทุกครั้งที่รบชนะฝ่ายรัฐบาล




น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหารและกังหันน้ำประมาณ 600 เมตร มีทางแยกเดินลงน้ำตกร่มเกล้า ประมาณ 400 เมตร หากเดินลงไปอีก 200 เมตร จะเป็นน้ำตกภราดรซึ่งมีลักษณะคล้ายกันและอยู่บนลำธารเดียวกัน น้ำตกภราดรมีความสูงน้อยกว่าแต่กระแสน้ำแรงกว่า
น้ำตกศรีพัชรินทร์ ตั้งชื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารค่ายศรีพัชรินทร์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นทหารหน่วยแรกที่ขึ้นมาบนภูหินร่องกล้า น้ำตกศรีพัชรินทร์มีความสูงประมาณ 20 เมตร บริเวณน้ำตกมีแอ่งขนาดใหญ่ สามารถลงเล่นน้ำได้
น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตก 32 ชั้นในห้วยน้ำหมันซึ่งมีน้ำตลอดปี ต้นน้ำเกิดจากยอดเขาภูหมัน น้ำตกแต่ละชั้นตั้งชื่อคล้องจองกันตามสภาพลักษณะที่สวยงามแปลกตา ห้อมล้อมด้วยป่าดงดิบอันสมบูรณ์ การเดินทาง จากที่ทำการอุทยานใช้เส้นทางสายภูหินร่องกล้า-หล่มเก่า ถึงหลักกิโลเมตรที่ 18 มีทางแยกซ้ายเป็นทางเดินเท้าเข้าสู่น้ำตก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เส้นทางผ่านป่าร่มครึ้มมีกล้วยไม้ป่า ต้นเมเปิ้ล และทุ่งหญ้า
น้ำตกผาลาด ตั้งอยู่ด้านล่างของหน่วยพิทักษ์ห้วยน้ำไซ ทางเข้าจะผ่านหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง บ้านห้วยน้ำไซ เข้าสู่เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน จากทางแยกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงทางแยกซ้ายมือ เดินลงไปอีกประมาณ 50 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก เป็นน้ำตกซึ่งไม่สูงนักแต่มีน้ำตลอดปี
น้ำตกตาดฟ้า เป็นน้ำตกที่สูงมาก ทางเข้ายังไม่สะดวกนักต้องเดินทางไปตามถนนลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นจึงไปตามทางเดินในป่าอีกประมาณ 300 เมตร ถึงด้านบนของน้ำตก และต้องไต่ลงไปตามทางเดินเล็กๆ จึงจะมองเห็นความสวยงามของน้ำตกตาดฟ้าหรือเรียกชื่อพื้นเมืองว่า “น้ำตกด่าน-กอซาง” ซึ่งหมายถึงด่านตรวจของ ผกค. ที่มีกอไม้ไผ่ซาง
ธารพายุ เป็นจุดชมวิวบริเวณกิโลเมตรที่ 32 เส้นทางภูหินร่องกล้า-หล่มเก่า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม มีสวนรัชมังคลาภิเษกสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
การเดินทางและที่พัก การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีหลายเส้นทาง แต่ที่นิยมกันคือ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง มีป้ายบอกทางแยกขวาผ่านบ้านห้วยตีนตั่ง-บ้านห้วยน้ำไซ-ฐานพัชรินทร์ สู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งคือ จากเพชรบูรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาล บ้านเหมืองแบ่ง บ้านแม้วทับเบิก ถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง ค่อนข้างสูงชันและคดเคี้ยวมาก ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังสูงและใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
ที่อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีรถสองแถวบริการขึ้นภูหินร่องกล้าทุกวัน วิ่งวันละ 7 เที่ยว ออกเวลา 08.00, 09.30, 11.00, 12.30, 14.00, 15.30 และ 17.00 น. รถจะจอดอยู่บริเวณตลาดสมใจ (ท่ารถนครไทย) ค่าโดยสารคนละ 20 บาท หรือเช่าเหมาคันละประมาณ 550 บาท ถ้าค้างแรมประมาณ 750 บาท
ติดต่อจองที่พัก อาหาร และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานบริการบ้านพัก กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 02 579 7223 และ 02 579 5734 

เรียนรู้ชีวิตสัตว์อย่างใกล้ชิดกับสวนสัตว์เปิด!


สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์



   บนเนื้อที่ 500 ไร่ ตั้งอยู่ที่ 40/2 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ตั้งสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค ความเป็นมาของสวนสัตว์เปิดฯ เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นเหมืองพลอยของท่านประธาน คุณปัญญา ประสพสุขโชคมณี หลังจากยุติธุรกิจล้างแร่พลอยลง ท่านก็มีความประสงค์ที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสังคม ด้วยความรักและเมตตาที่มีต่อสัตว์จึงได้ก่อตั้งสวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค ขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์และขยายพันธุ์สัตว์นานาชนิด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กๆนักเรียนนักศึกษารุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาถึงชีวิตสัตว์ต่างๆ
   รวมไปถึงสร้างงานสร้างได้ให้แก่ชุมชนบริเวณนี้ ปัจจุบันสวนสัตว์เปิดซาฟารี ปาร์ค ได้ดำเนินกิจการเข้าปีที่ 15 และมีโครงการเกี่ยวกับการศึกษา ในหลายๆ ด้าน สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์คปัจจุบันได้บรรจุเป็น แหล่งเรียนรู้เขตพื้นที่การศึกษา 4 จ.กาญจนบุรี ทางสวนสัตว์เปิดฯ ได้เน้นถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับสัตว์ได้จริง คือ นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์นานาชนิดอย่างใกล้ชิด ถึงขนาด“สามารถกอดคอยีราฟถ่ายรูปได้”ซึ่งมั่นใจว่าท่านจะไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน และยังได้สนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ ไปกับการแสดงโชว์อีกด้วย

สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ มีด้วยกัน 2 โครงการ
โครงการที่ 1 สวนสัตว์เปิด แบ่งออกเป็น 8 โซนสัตว์
โซนที่ 1 กวางฟลอวโลว์
โซนที่ 2 หมีควาย
โซนที่ 3 แบล๊คบัคและเนื้อทราย
โซนที่ 4 เสือโคร่ง
โซนที่ 5 สิงโตอัฟริกา
โซนที่ 6 เสือดาว
โซนที่ 7 กวางม้า กวางรูซ่า กวางดาว
โซนที่ 8 ยีราฟ ม้าลาย ลามา อูฐ นกกระจอกเทศ และ นกฟลามิงโก้

นักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถมินิบัสเข้าไปในโซนสัตว์ซึ่งมีทั้งหมด 8 โซน สัตว์ทุกตัวที่นี่จะเดินเข้ามาหานักท่องเที่ยวที่รถ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหาร-ถ่ายรูป และสัมผัสได้ใกล้ชิดอย่างมาก ถึงขนาดว่าสามารถ "กอดคอยีราฟถ่ายรูป" ได้เลยทีเดียว หรือ "ป้อนอาหารด้วยปาก" ก็ยังได้ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนานมาก โซนสัตว์ที่อันตรายกรุณาอย่าเปิดกระจกนะครับ เช่น เสือ, สิงโต และ หมีควาย เค้าก็จะไม่เข้ามาใกล้หรือ ทำอันตรายแก่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถนำรถส่วนตัวเข้าเที่ยวชมสวนสัตว์เปิด หรือใช้บริการรถมินิบัส ของทางสวนสัตว์ ซึ่งบริการฟรี

โครงการที่ 2 การแสดงโชว์
1. การแสดงโชว์ช้างแสนรู้
2. การแสดงโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่า
3. ลานแสดงนกมาคอว์
เราเปิดการแสดงโชว์ทุกวัน


ราคาบัตรผ่านประตู
ชาวไทย
ผู้ใหญ่ 150 บาท
เด็ก 80 บาท (ความสูงไม่เกิน 120 ซ.ม.)

หมายเหตุ : เด็กอายุไม่เกิน 3 ขวบไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู
ชาวต่างชาติ
ผู้ใหญ่ 450 บาท
เด็ก 250 บาท
เวลาเปิด-ปิด
เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา
9.00 น. - 17.00 น.

ข้อมูลและรูปภาพ


--------------------------------------------


ซาฟารีเวิลด์

   ซาฟารีเวิลด์ ตั้งอยู่เลขที่ 99 ถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เขตมีนบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 430 ไร่ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง คือ ซาฟารีปาร์ค ซึ่งเป็นสวนสัตว์เปิด มีสัตว์ต่างๆ เช่น ม้าลาย กวาง ยีราฟ นก เสือ สิงโต หมี ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งรถชมชีวิต ความเป็นอยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติโดยรถส่วนตัว หรือรถบริการพร้อมผู้บรรยายของซาฟารีเวิลด์ ส่วนที่สอง คือ มารีนปาร์ค หรือสวนน้ำ มีสัตว์น้ำ และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่หาดูให้ชมยาก รวมทั้งการแสดงต่างๆ เช่น การแสดงของปลาโลมา, นก, แมวน้ำ และลิง เป็นต้น


     นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและเกมส์ต่างๆ เช่น เกมส์ปาเป้า ยิงปืน โยนบ่วง ฯลฯ ไว้บริการ ซาฟารีเวิลด์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 390 บาท เด็ก 290 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2518 1000-19, 0 2914 4100-9
ข้อมูลและรูปภาพ 
www.tourismthailand.org














-------------------------------------


ผจญภัยไปกับสวนสนุกในไทยกันเถอะ!!



SANTORINI PARK CHA-AM

สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก

ระสบการณ์ช้อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในชะอำ-หัวหิน แหล่งเพลิดเพลินยามเย็นสำหรับกลุ่มเพื่อน และครอบครัว พบกับร้านค้าชั้นนำและสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์สำหรับทุกเพศทุกวัย พรั่งพร้อมด้วยร้านอาหารที่เน้นเรื่องคุณภาพ และบรรยากาศนั่งสบาย สนุกไปกับเครื่องเล่นระดับโลกหลากชนิดบนพื้นที่สีเขียวอันร่มรื่น เพลิดเพลินกับงานศิลป์และซื้อสินค้าแฮนด์เมดในบรรยากาศตลาดนัดในสวน อีกทั้งมีกิจกรรมมากมายที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างความสุขตลอดปี สัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงามของเกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ ทุกมุมใน SANTORINI PARK CHA-AM จะกลายเป็นพื้นที่ที่ให้บันทึกภาพความประทับใจ...ไม่รู้ลืม

เวลาเปิดให้บริการ: วันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 22.00 น.  

ค่าบัตรผ่านประตู: วันจันทร์-พฤหัสบดี ฟรี! ค่าเข้า (ยกเว้นเครื่องเล่นเก็บค่าบัตรตามปกติ) วันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าเพียงท่านละ 50 บาทเท่านั้น

รายละเอียดเพิ่มเติม 
www.santoriniparkchaam.com 
www.facebook.com/SantoriniPark 
www.twitter.com/santorinipark


ขอมูลและรูปภาพจาก
travel.mthai.com/blog/15476.html
www.santoriniparkchaam.com 

-----------------------------------------------------------------------------



ด้วยคำขวัญสั้นๆว่า " สวนสยาม..โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม" บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ที่สามารถสรรสร้างความสุขสำหรับครอบครัวและหมู่เพื่อนฝูง ให้ได้พักผ่อนอย่างสนุกสนาน ตื้นเต้นกับเครื่องเล่นนานาชนิด หรือความสงบร่มรื่น อบอวลกลิ่นอายธรรมชาติเขียวชะอุ่ม ท่ามกลางแมกไม้ เกลียวคลื่น สายลม และแสงแดด นอกเหนือจากสวนน้ำ อันเป็นบริการเริ่มแรกของสวนสยาม ที่ยังคงความประทับใจและความนิยมได้จนกระทั่งทุกวันนี้แล้ว สวนสยาม ยังถูกสรรสร้างให้กลายเป็นอุทยานเอนกประสงค์ที่ตรงกับควมต้องการของผู้คนทุกเพศทุกวัยในครอบคนัว ด้วยบริการต่างๆเหล่านี้

สวนสนุก กับเครื่องเล่นมากมายกว่า 30 ชนิดสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
สวนสาระที่ให้ความรู้ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวแสนสนุกด้วยพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่จัดแสดงหุ่นไดโนเสาร์แอนิเมชั่นที่เคลื่อนไหวและส่งเสียงร้องได้ดุจมีชีวิต และนิทรรศการการขุดค้นซากกระดูกไดโนเสาร์ รวมถึงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดเท่าขนาดจริงที่หาดูได้ยาก , พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งจีน 3000 ปี ที่รวบรวมตัวละครในพงศาวดีจีนกว่า 20 เรื่อง ให้ร้อยเรียงเรื่องราวประกอบเรื่องให้แก่ยุวชนรุ่นหลังได้ศึกษา 
สวนสัตว์และสวนสนุก ให้คุณได้ใกล้ชิดกับชีวิตสัตว์โลกโดยจำลองลักษณะที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด , อุทยานพฤกษชาติที่ประกอบด้วยพรรณไม้นานาชนิด อาทิเช่น พรรณไม้ในวรรณคดี สวนสมุนไพร พันธุ์ไม้ดอกหลากสีที่บรรจงตกแต่งอย่างสวยงาม

การจัดการเแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย และการแสดงจากต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาศชมการแสดงระดับโลกโดยไม่ต้องเดินทางไกล ประหยัดค่าใช้จ่าย และร่วมกิจกรรมกันได้ทั้งครอบครัว ตัวอย่างการแสดงจากต่างชาติ เช่น Hot Ice สเก็ตน้ำแข็งจากประเทศอังกฤษ , Cyber Magic การแสดงมายากลสุดตื่นเต้นจากสหรัฐอเมริกา , ละครสัตว์จากรัสเซีย และหุ่นโคมไฟจื้อกงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น

บัตรผ่านประตูสวนสยาม หรือสยามพาร์คซิตี้ (Siam Park City)
เด็กความสูงต่ำกว่า 100 ซม. ผ่านประตู เล่นสวนน้ำ ฟรี (ไม่รวมเครื่องเล่น)

บัตร Si-Am Kids Pass
บัตร Si-Am Kid Pass (สำหรับเด็กความสูงไม่เกิน 130 ซม.) ราคา 100 บาท
ผ่านประตู เล่นสวนน้ำ เครื่องเล่น Small World, Family World ฟรีตลอดวัน

บัตร Si-Am Fantasy Pass
บัตร Si-Am Fantasy Pass(บัตรสวนน้ำ)
สำหรับผู้ใช้บริการที่มีความสูงตั้งแต่ 130 ซม ขึ้นไป ราคา 300 บาท
สำหรับผ่านประตูเล่นน้ำในสวนน้ำฟรีตลอดวัน 
(พิเศษ: สามารถนำบัตรผ่านประตูไปแสดงเพื่อเล่นเครื่องเล่น ใน โซน Family World และ Fantasy World ฟรีตลอดวัน)

บัตร Si-Am Day Pass

บัตร Si-Am Day Pass ราคา 900 บาท
ผ่านประตู เล่นสวนน้ำ เครื่องเล่นทุกชนิด ฟรีตลอดวัน

บัตรสมาชิก Si-Am Swim Club

บัตรสมาชิก Si-Am Swim Club บัตรสมาชิกสวนน้ำ 1 ปี ผู้ใหญ่ ราคา 1,000 บาท, เด็ก ราคา 600 บาทเจ้าของบัตรสามารถผ่านประตู และ เล่นสวนน้ำฟรี วันละ 1 ครั้ง จนกว่าจะหมดอายุบัตร

บัตร Si-Am Year Pass

บัตรสมาชิก Si-Am Year Passบัตรสมาชิกเที่ยวสวนน้ำเล่นเครื่องเล่นทุกชนิดฟรีตลอด 1 ปี 
ราคา 2,000 บาท เจ้าของบัตรสามารถผ่านประตู และ เล่นสวนน้ำฟรี วันละ 1 ครั้ง และ
เล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิดฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง (เฉพาะเครื่องที่เปิดให้บริการ)
จนกว่าจะหมดอายุบัตร

ข้อมูลและรูปภาพจาก

------------------------------------------------




สวนสนุกดรีมเวิลด์ 

ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกและสถานที่พักผ่อนที่รวบรวมความบันเทิงนานาชนิดเข้าไว้ด้วยกันในเนื้อที่กว่า 160 ไร่ ประกอบด้วยดินแดนต่างๆ 4 ดินแดน ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศแห่งความสุข สนุกสนานที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ดรีมเวิลด์ พลาซ่า ดินแดนที่เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันวิจิตร พิศดารตลอดสองข้างทาง ดรีมการ์เด้น เป็นอุทยานสวนสวยที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามท่ามกลางความเย็นสบายจากทะเลสาบขนาดใหญ่ และเคเบิ้ลคาร์ ที่จะพาชมความงามของทัศนียภาพในมุมสูง แฟนตาซี แลนด์ เป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ประกอบด้วย ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา บ้านขนมปัง และบ้านยักษ์ แอดแวนเจอร์ แลนด์ ดินแดนแห่งการผจญภัย และท้าทาย ประกอบด้วย รถไฟตะลุยจักรวาล ไวกิ้งส์ เมืองหิมะ เป็นต้น 

อัตราค่าบริการ บัตรผ่านประตู ชาวไทย ผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 95 บาท บัตรรวมเครื่องเล่น 365 บาท บัตรวีซ่า 395บาท ชาวต่างประเทศ 450 บาท 
เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิดถึง 19.00 น. โทร. 0 2533 1152, 0 2533 1447 โทรสาร 0 2533 1899 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.suansanook.net/forum/viewtopic.php?f=2&t=10